วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ไอเดียมุมอ่านหนังสือและนั่งเล่น

ไอเดียมุมอ่านหนังสือและนั่งเล่น

คอนเซปต์โดยรวมเราอยากได้มุมอ่านหนังสือน่ารัก ๆ ที่สามารถแสดงฝีมือเองได้ และเรื่องสำคัญคือจะไม่มีการจ่ายเงินในปฏิบัติการครั้งนี้ เราอยากจ่ายเฉพาะไอเดียเก๋ ๆ และความคิดสร้างสรรค์ที่จะใช้มาดัดแปลงนี่นิดโน่นหน่อยให้ผลสรุปสุดท้ายคือ ความสวยและลงตัวใช้งานได้ดี โดยมี "เข็มหมุด" เป็นนางเอก

มุมอ่านหนังสือมุมนี้เป็นส่วนหนึ่งในโซนรับแขกของคอนโดขนาด 60 ตร.ม. ที่ได้บรรยากาศดีจากสวนริมระเบียง (วิวดีและลมแรงมาก) ซึ่งเจ้าของห้องใช้นั่ง ๆ นอน ๆ อ่านหนังสือ ดูทีวี และฟังเพลง อยู่เป็นประจำ แต่ด้วยความที่เป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ ก็เลยไม่ได้แต่งอะไรเป็นพิเศษ ขอเพียงแค่มีหนังสือที่ถูกใจ เพลงที่ถูกหู และรายการที่ถูกตาต้องใจก็พอแล้ว

เธอบอกว่าไม่ใช่ความชอบแต่เป็นความบังเอิญมากกว่าที่มีผ้าสะสมอยู่หลายชิ้นหลายชนิดจากที่ซื้อเองและมีคนให้มาบ้าง ทั้งคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรได้ มันจึงง่ายสำหรับทีมงานเราที่จะเนรมิตมุมนี้ใหม่ เรารวบรวมวัตถุดิบข้าวของทั้งหมดออกมากองรวมกัน ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้างก็ไม่เป็นไร ขอแค่มีให้เลือกก็อุ่นใจพอแล้ว
สิ่งแรกที่ขัดหูขัดตาเหลือเกิน (ต้องกำจัดทิ้ง) ก็คือ ตู้แผงไฟบนผนัง เราใช้ภาพเขียนสีน้ำมันรูปดอกไม้ซึ่งสีสันใกล้เคียงกับแผงไฟมาก เข้าไปติดอำพรางไว้ แต่ไม่ได้ติดแบบถาวร แค่แขวนเอาไว้เท่านั้น เพราะภาพสีน้ำมันนี้น้ำหนักเบาจึงไม่มีปัญหาในการติดตั้ง

อันดับต่อมา เราไปถูกใจผ้าบาติกสีขาวลวดลายน่ารัก ที่น้องสาวคนหนึ่งให้เป็นของขวัญ เลยตกลงจะใช้ทำผ้าม่านกรองแสงแดดยามสาย ๆ ส่วนวิธีติดตั้งก็ไม่ยาก ใช้เข็มหมุดกลัดไปเป็นระยะ ๆ แทนการเย็บด้วยจักรหรือมือ (น้อง ๆ ที่อยู่ตามหอพักจะนำไปใช้ก็ได้นะคะ) เพราะถ้าวันไหนเบื่อก็สามารถถอดเข็มหมุดออกเปลี่ยนเป็นผ้าผืนใหม่ ผ้าผืนเก่าก็คงอยู่ในสภาพเดิม

มาถึงคิวของโซฟาตัวเก่ง ซึ่งอยู่ด้วยกันมานาน ผ่านงานหนักกับการรองรับบรรดาหลาน ๆ และเพื่อนฝูงช่วงปิดเทอม จนแทบจะหาสีเดิมไม่เจอ จะทิ้งก็เสียดาย เพราะโครงสร้างก็ยังแข็งแรงดี เลยใช้ไอเดียที่คนขายเฟอร์นิเจอร์คงไม่ชอบใจนัก ด้วยการหาผ้าผืนใหญ่ สีสันถูกใจมาคลุมเหมือนใส่เสื้อผ้านั่นล่ะ แต่ยังไม่ได้ฤกษ์เปลี่ยนถาวร งานนี้เราเลยสาธิตการเลือกผ้าคลุมให้เป็นตัวอย่างดู 2 แบบ ด้วยการใช้เข็มหมุดแทนกระดุมอีกนั่นล่ะ (ควรใช้กับโซฟาที่เป็นผ้าเท่านั้น) อันที่จริงจะให้ใช้งานจริงก็คงได้ แต่ไม่ปลอดภัยเท่าไหร่นัก จึงไม่อยากแนะนำ

รูปแบบแรก เป็นมุมนั่งเล่นสีสดใส โทนแดงขาว เราได้ผ้าคลุมเตียงสีขาวผืนใหญ่ปักลายน่ารัก มาจากตลาดขายของเก่าในราคาผืนละ 400 บาท มาเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่ให้โซฟาตัวเดิม หากนั่งอ่านบนโซฟาแล้วเบื่อ เรายังสามารถนอนเอกเขนกบนพื้นห้องได้อีกด้วย โดยใช้พรมผ้าฝ้ายสีแดงมาปูซึ่งสร้างความสดใสได้เป็นอย่างดี ส่วนหมอนหลากสีหลายขนาดนั้นเราได้ผ้าจากนันทขว้าง ( ของสะสมอีกเช่นเคย ) ซึ่งวัตถุประสงค์เดิมให้เป็นผ้าปูโต๊ะ แต่เรามาดัดแปลงตัดเย็บให้เป็นปลอกหมอนใบใหม่โดยไม่ต้องเปลืองเงินในกระเป๋าอีกด้วย

องค์ประกอบที่เหลือก็เป็นโต๊ะสำหรับวางเครื่องดื่มเล็ก ๆ ชั้นวางหนังสือกระเป๋าหิ้วที่เคลื่อนย้ายสะดวก ปรับเปลี่ยนได้ง่ายดายในทุกมุมที่ต้องการ และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือความเขียวของต้นไม้ใบหญ้าที่เจ้าของห้องชื่นชอบมาวางสร้างชีวิตชีวาและต่อเนื่องกับสวนริมระเบียง

ส่วนอีกรูปแบบโทนสีฟ้า เย็นใจ ด้วยการเปลี่ยนเสื้อคลุมโซฟา เป็นผ้าฝ้ายสีฟ้าอ่อนจากยโสธร เปลี่ยนสีหมอนอิงใบใหญ่ด้วยปลอกผ้าฝ้ายสีน้ำเงินสด ส่วนพื้นเราก็ใช้เสื่อ มาปูแทนพรมผ้าฝ้ายผืนเดิม ส่วนประกอบอื่น ๆ เหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ทว่าอารมณ์จะเปลี่ยนไปทันทีเมื่อสีเปลี่ยน ทั้งรู้สึกได้ว่าสีสันมีบทบาทกับชีวิตของเราขนาดไหน เราไม่ขอตัดสินใจว่าแบบไหนสวยกว่ากัน เอาเป็นว่าให้ผู้อ่านเป็นคนตัดสินใจดีกว่า

ที่มา :
Decoration Guide Magazine เรื่อง ..ปรียากร / ภาพ. เฉลิมเกียรติ

ผู้ติดตาม